USB-C Android & iPhone ใช้ด้วยกันได้มั้ย

หลังจากที่มีข่าว ร้านตัวแทนจำหน่าย Apple ในจีนได้แนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้งานสาย USB-C ของมือถือ Android โดยอ้างว่าขั้วเชื่อมต่อที่ 9 & 11 มีระยะห่างที่ต่างกันทำให้มีปัญหาเรื่องความร้อน (overheat) ได้

วันนี้เลยจะมาทำความเข้าใจกับ usb-c และ ข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้กันครับ

มาตรฐาน USB-C

มาเริ่มที่ความเร็วในการรับส่งข้อมูลของสาย USB ก่อน

• USB 1.0/Low-Speed: 1.5 Megabits per second (Mbps)
• USB 1.1/Full-Speed: 12 Mbps
• USB 2.0/Hi-Speed: 480 Mbps
  (สาย USB-C iPphone 15 ทุกรุ่นที่แถมมาเป็น 2.0)
• USB 3.0/SuperSpeed: 5 Gbps
• USB 3.1 ขึ้นไป /SuperSpeed: 10 Gbps
  (iPhone 15 Pro & Pro Max รองรับ USB 3.2 Gen 2)

จากมาตรฐานความเร็ว USB ที่กล่าวมาจะสรุปได้ว่า
ตั้งแต่ iPhone 15 Pro ขึ้นไปจะสามารถรับส่งความเร็วได้ถึง 10 Gbps
แต่ถ้าใช้สายที่แถมมากับตัวเครื่องจะได้แค่ 480 Mbps เท่านั้น
ถ้าเราอยากได้ความเร็วเต็มประสิทธิภาพต้องไปซื้อสายมาใช้เพิ่มเติมที่เป็น USB 3.1 ขึ้นไป ที่ขายในท้องตลาด และ เป็นแบรนด์ที่รู้จักกันเชื่อถือได้ มีดังนี้

• Apple Thunderbolt 4 = 2,490 THB
• Belkin USB4 = 1,290 THB
• Aukey USB3.1 = 699 THB

ขั้วPin ของ USB-C

จากภาพเราจะเห็นว่า แต่ละขั้วจะแยกประเภทตามสีต่างๆ

• สีน้ำเงิน : สำหรับรับส่งข้อมูลความเร็วสูง (จะมีใน USB 3.0 ขึ้นไป)
• สีฟ้า : สำหรับรับส่งข้อมูลทั่วไป
• สีแดง : สำหรับจ่ายไฟ
• สีทอง : ใช้ตั้งค่าการสื่อสารระหว่างสองอุปกรณ์
• สีเทา : ใช้สำหรับโหมดอื่นๆเช่น displayPort, AUX

USB Full-Featured Type-C cable for USB 3.1 Gen1

ดังนั้นต่อให้คนเอาไฟส่องดูขั้วที่สายของ USB-C แต่ละเส้นจึงมีขั้วที่ไม่เท่ากัน และ การที่ขั้วมันไม่เต็มไม่ได้แปลว่ามันไม่มีประสิทธิภาพ แต่มันไม่ใส่มาเพราะมันไม่ได้ใช้ (อาจจะเป็นแค่ USB-C 2.0) ดังนั้น ขั้วที่หายไปไม่มีผลในเรื่องของการชาร์จไฟ แต่จะมีผลในเรื่องความเร็วในการรับส่งข้อมูลตามประเภทของ USB-C เท่านั้น

USB-C Android & iPhone ใช้ด้วยกันได้ไหม

• จากข่าว pin 9, 11 มีระยะห่างที่ต่างกันทำให้มีปัญหาเรื่องความร้อน
  ตัว 9 ใช้ในการชาร์จไฟ แต่ตัวที่ 11 ใช้ในการรับส่งข้อมูลความเร็วสูง
  ดังนั้นตอนที่เราเสียบชาร์จไฟจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
• Adapter หัวชาร์จแบบกำลังไฟสูงๆ 40W, 60W & 100W สามารถใช้ได้มั้ย
  สามารถใช้งานด้วยกันได้ เพราะว่า iPhone รองรับไฟสูงสุดที่ 27W
  และ มีตัวจำกัดกำลังไฟที่อยู่แล้ว ตามตัวอย่างข้างล่างนี้
  จะพบว่ากำลังไฟจะวิ่งอยู่ที่ประมาณ 20 Watt โดยเฉลี่ย

ทดสอบการชาร์จบน iPhone 15 Pro Max with Anker 65W Adapter

• สาย USB-C สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับกระแสไฟสูงมากกว่า 3 Amp ได้มั้ย โดยปกติสาย USB-C ทั่วไปจะรองรับไฟที่ 3A สำหรับชาร์จกำลังไฟทั่วไป
  แต่ถ้ามันจะใช้กระแสมากกว่า 3A ซึ่งสายที่มีมาตรฐานจะมี E-Mark Chip สำหรับจำกัดกระแสไฟไม่ให้เกินสเปคของสายไฟอยู่แล้ว
  (ตัวที่ไม่มีชิปจะใช้ไม่เกิน 3A อยู่แล้ว)
• Ipad Air มีการรองรับ USB-C มาตั้งแต่ปี 2020 แล้วแต่ยังไม่เห็นมีปัญหาเรื่องความร้อน และ สายชาร์จ USB-C แต่อย่างใด

จากข้อมูลเบื้องต้นเราจะพบว่า USB-C มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และ มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ออกแบบมาอย่างดี ดังนั้นไม่ว่าจะใช้สาย และ หัวชาร์จของแบรนด์ใดก็ตามที่ได้มาตรฐาน ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ครับ