ขอเริ่มด้วยลำดับเวลาเหตุการณ์ต่างๆตามนี้ครับ
Timeline Zipmex
- กรกฎาคม 2565 Zipmexประกาศปิดการถอนเงินจาก Z-Wallet เมื่อวันที่ 20/7/2565 เนื่องจากปัญหาสภาพคล่อง
- สิงหาคม 2565 มีประกาศการฟื้นฟูกิจการโดยนักลงทุนรายใหญ่พร้อมเข้าลงทุน
- พฤศจิกายนา 2566 ได้เกิดแผนฟื้นฟูกิจการ โดยจะคืนเงินประมาณ 3.35% และ งวดอื่นๆในอนาคต แต่ว่าแผนนี้โหวตไม่ผ่าน เพราะเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากมีความไม่โปร่งใสในหลายๆด้าน และ การจัดการเงินที่ได้คืนมาจาก Celsius และ Babel ที่ถ้าบริษัทจะจ่ายคืนยังไงถ้ามีการชำระบัญชี
- ธันวาคม 2566 ตำรวจได้ส่งเรื่องให้กับทางDSI เพื่อรับคดีเกี่ยวกับ Zipmex เนื่องจากมีมูลค่าเสียหายสูงถึง 900 ล้านบาท
(ยังไม่มีข่าวความคืบหน้าในฝั่ง DSI แต่อย่างใด) - กุมภาพันธ์ 2567 ก.ล.ต.กล่าวโทษอดีตผู้บริหารZipmex กรณีแจ้งข้อมูลเท็จ หรือ ปกปิดความจริงที่ควรแจ้งแก่ประชาชน
- ปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้าจากทางภาครัฐเพิ่มเติม
แนวทางการแก้ปัญหา
กลุ่มผู้เสียหายบางส่วนได้มีการแจ้งความ, ให้ปากคำกับทางสอท1 ไปตั้งแต่เกิดเรื่อง และ มีทยอยแจ้งความเพิ่มเรื่อยมา แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า เลยขอเอาข้อมูลจากคุณ Lek ในกลุ่มผู้เสียหาย ที่ผมอ่านแล้วคิดว่ามีประโยชน์มาฝากกันครับ
ผมขอเสริมเรื่องการฟ้องร้องตามความเข้าใจส่วนตัวนะครับ ตอนนี้ผู้เสียหายที่แจ้งความกับสอท.แล้ว สามารถเลือกทำอะไรได้บ้าง ดังนี้ครับ
1. รอสอท.หรือ DSI ดำเนินการฟ้อง ซึ่งเรารอมา 2 ปี แล้วยังคงต้องรอต่อไปก่อน ถ้ามันเกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะเชื่อว่าตร.จะมีหลักฐานที่แน่นหนาและเราก็ได้ลุ้นว่าจะได้ทรัพย์คืน โดยเราไม่ต้องเหนื่อยไปฟ้องเอง ไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย แต่ถ้ามันไม่เกิดขึ้นก็ต้องหาทางอื่นหรือยอมรับสภาพว่าต้องเสียทรัพย์ทั้งหมด
2. ดำเนินการฟ้องส่วนตัว (ฟ้องแพ่ง, ฟ้องอาญา — ความเสี่ยงฟ้องอาญาถ้าแพ้คดีอาจโดนฟ้องกลับ) ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายและรับความเสี่ยงเอาเอง ถ้าทนายไม่เก่ง หลักฐานไม่แน่นพอก็มีโอกาสแพ้คดี แต่ถ้ามีใครชนะคดีก็จะดีที่มีแนวทางให้คนอื่นได้ศึกษาช่องทางการฟ้อง
3. เข้าร่วมการฟ้องแบบ class action มีข้อดีคือเป็นระบบไต่สวน ศาลสามารถเรียกหาหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆได้โดยตรง (ถ้าฟ้องส่วนตัวเป็นระบบกล่าวหา เราต้องหาหลักฐานเองทั้งหมด) ทำให้มีโอกาสได้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เสียหาย แต่มีค่าใช้จ่าย ข้อเสียคือถ้าแพ้คดีก็จ่ายเงินเพิ่มฟรีๆ (ไม่ต่างจากฟ้องส่วนตัวที่มีค่าใช้จ่ายและถ้าแพ้ก็จ่ายเพิ่มฟรีๆ)
ข้อดีคือ
- ถ้าแพ้คดีฟ้องกลับไม่ได้
- ไม่ต้องดำเนินการเอง มีตัวแทนผู้เสียหายนำฟ้องดำเนินการให้
- ถ้าชนะคดีทุกคนที่เข้าร่วมจะได้เฉลี่ยทรัพย์คืนทุกคนโอกาสชนะหรือแพ้คดีทั้ง 3 แบบมีโอกาสชนะและแพ้หมด แต่แบบไหนจะมีโอกาสชนะคดีมากกว่าหรือแพ้มากกว่า ผมตอบไม่ได้ ดังนั้นใครจะตัดสินใจแบบไหนก็พิจารณาเอาครับ
ส่วนตัวผมไม่มีกำลังความสามารถพอจะฟ้องส่วนตัว ดังนั้นผมจึงพิจารณา class action รวมถึงการรอสอท.,DSI ดำเนินการครับ
กลุ่มรวมสู้ Zipmex
นี่จึงเป็นที่มาของทางกลุ่มร่วมสู้ Zipmex ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เสียหายที่รวมตัวกันขึ้น เพื่อประชาสัมพันธ์และรวมพลังกันเพื่อจัดหาทีมกฎหมายในการยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม Class Action https://suzipmex.com/
โดยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมาทางกลุ่มได้มีการชวนผู้เสียหายมาร่วมประชุมปกป้องสิทธิ โดยมีรายละเอียดในที่ประชุมดังนี้
การชำระบัญชีของ Zipmex
พฤษภาคม 2567 : Zipmexได้ยื่นขอชำระบัญชีเพื่อปิดบริษัท ต่อ ACRA (หน่วยงานกำกับดูแลด้านบัญชีและองค์กรของทางสิงคโปร์) เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567
และตอนนี้กำลังแต่งตั้ง Mazars Consulting เพื่อเป็น Liquidator (ผู้ชำระบัญชี)
วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 จะมีการประชุมในการเลือกผู้ชำระบัญชี ซึ่งก็คือ Mazars Consulting เพื่อทำหน้าที่ดูแลการเลิกกิจการ และ ชำระบัญชี
หน้าที่ของผู้ชำระบัญชี
- เข้าไปตรวจสอบบัญชี ว่าบริษัทมีเงินเหลืออยู่เท่าไร
- สามารถตรวจสอบผู้บริหาร และ ฟ้องได้ ถ้ามีการนำเงินไปใช้ไม่ถูกต้อง
กลุ่มร่วมสู้ Zipmex ได้ส่งตัวแทน อาจารย์นิว หรือ คุณวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ (Verapat Pariyawong) เพื่อเข้าไปนั่งฟังในที่ประชุมกับทาง Zipmex ที่สิงคโปร์ และ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอเลื่อนการประชุมออกไปก่อน เพื่อที่ทางกลุ่มจะได้มีการพิจารณาผู้ชำระบัญชีที่เป็นประโยชน์ที่สุดกับทางผู้เสียหายในไทย
ส่วนเรื่องที่ทางกลุ่มดำเนินการในสิงคโปร์แล้วมีสมาชิกทักท้วงถึงค่าใช้จ่าย ว่าควรมีการแยกกับค่าใช้จ่ายในไทยมั้ย อาจารย์นิวได้ชี้แจงให้เห็นว่า มันเป็นเรื่องเดียวกันทั้งที่ไทย และ สิงคโปร์ เพราะว่าตอนที่เกิดเรื่องทาง Zipmex Thailand บอกว่าได้โยกเงินไปให้ Zipmex Asia (ที่อยู่ Singapore) เราจึงมีหน้าที่ต้องไปติดตามทรัพย์สิน และ การชำระบัญชีของ Zipmex Asia ด้วย
Class Action ในไทย [ก.ล.ต.]
หลายคนเข้าใจดีว่าเรื่องนี้ ก.ล.ต. ก็มีส่วนผิดในการไม่สามารถควบคุมกำกับให้ดี แต่ว่าทางกลุ่มมองว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก เราต้องการเงินของเราคืน ดังนั้น
กลุ่มร่วมสู้ Zipmex จึงมีแนวทางในการดำเนินการ Class Action กับ Zipmex Thailandเท่านั้น เพราะตอนนี้อยากเอาทรัพยากรที่มีไปโฟกัสกับเรื่องเดียว ซึ่งถ้ามีใครอยากฟ้อง ก.ล.ต. ก็สามารถทำได้ โดยสามารถจัดตั้งทีมทำคู่ไปกับทางกลุ่มที่จะฟ้อง Zipmex Thailand ได้เช่นกัน
Class Action ในไทย [Zipmex Thailand]
- ตอนนี้ต้องติดตามข้อมูลการเงิน และ บัญชีของทาง Zipmex Asia ก่อน
- น่าจะต้องฟ้อง Zipmex Asia แล้วให้ผู้บริหารมาดำเนินคดีที่ไทยให้ได้
- เราต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีการโอนเงินไปสิงคโปร์ก่อนที่เราจะกดยอมรับใน T&C
- ตอนนี้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกทีมทนาย
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
- เจรจากันได้ : สามารถจัดสรรได้ว่าเงินก้อนที่ได้รับจะให้ใครก่อนหลัง
- กระบวนการศาล class action : ทุกคนจะได้รับเงินเท่ากันตามสัดส่วน
การสมทบทุน
กองทัพย่อมเดินด้วยท้อง ดังนั้นจึงขอเชิญผู้เสียหายทุกท่าน ร่วมสมทบทุนในอัตรา 3% หรือ ถ้ามีข้อจำกัดด้านงบประมาณอาจจะปรับลงได้ตามที่มีครับ เพื่อเป็นทุนในการเข้าร่วมติดตามทรัพย์สินที่สิงคโปร์ และ ดำเนินคดีในไทยครับ