[สรุปหนังสือ] ตะวันลับแห่งต้าถัง

koko_land
2 min readApr 17, 2020

--

เป็นหนังสือที่มีคนในกลุ่มนิยายจีนแนะนำมา ซึ่งปกติก็ได้ตามอ่านนิยายจีนอิงประวัติศาสตร์ และ ส่วนมากนิยายก็มักจะอิงไปที่
“ราชวงศ์ถัง” เป็นหลักเนื่องจากเป็นยุคนึงของจีนที่ถือว่าเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เช่น

1.มังกรคู่สู้สิบทิศ : หวงอี้
2.ไตรภาคสุยถัง : จิ่วถู

ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ถือเป็นนิยายที่แต่งได้ดี บทสนุก และ น่าติดตามเลย

แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองเรื่องก็ยังเขียนถึงแค่ช่วงกลางราชวงศ์ถังเท่านั้น

ผมจึงได้นำเล่มนี้มาอ่าน เพื่อเติมเต็มประวัติศาตร์ของราชวงศ์ถังที่เหลือ

หนังสือพูดถึงเรื่องราวหลังจากผ่านยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ถัง
ซึ่งก็จะเป็นช่วงร้อยปีหลังของราชวงศ์ถัง
หลังจากเกิดกบฎอันสื่อ (อันลู่ซาน)
ที่กินเวลาฮ่องเต้ถึง 3 รัชกาลได้แก่ ถังเสวียนจง ซู่จง และ ไต้จง

พอเปิดอ่านหนังสือจะเริ่มที่ ถังเต๋อจง เลย หากนับแต่จักรพรรดิพระองค์แรกแล้ว ที่หลี่เอียน หรือ หลี่หยวนครองราชย์ตั้งแต่ 618 จนถึงเต๋อจงครองราชย์ที่ คศ. 780 ก็กินเวลามาประมาณ 150 กว่าปีมาแล้ว

หนังสือจะเล่าประวัติโดยรวมของราชวงศ์ถัง ตั้งแต่จักรพรรดิถังเต๋อจง เล่าถึงเหตุการณ์สำคัญในยุคนั้นๆ ใครเป็นมหาเสนาบดี ใครเป็นผู้กุมอำนาจขั้นสูงสุด และ ระบอบการปกครองในสมัยจักรพรรดินั้นๆเน้นไปที่ด้านไหน และ กลุ่มชนชั้นปกครองเป็นใคร

หากจะสรุปโดยรวมหลังจากอ่านจบ ก็พอสรุปได้ว่าสาเหตุที่ทำให้ราชวงศ์ถังล่มสลาย นั้นมันไม่ได้มีแค่สาเหตุเดียว แต่มันมีจุดเริ่ม และ ผลต่อเนื่อง และ สะสมปัญหามาเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็เกินที่จะเยียวยา โดยจะมีเหตุการณ์ตามนี้ (ขอไม่เจาะจงว่าเป็นยุคสมัยของจักรพรรดิองค์ไหนนะครับ เพราะ มีเยอะมากกก 555)

  • เริ่มจากเขตทหารตั้งตนเป็นใหญ่หลังจากกบฎอันสื่อ เพราะอำนาจศูนย์กลางอ่อนแอลง ซึ่งปกติมันไม่มีปัญหาอะไร จักรวรรดิจีนก็ยังพอประคับประคองไปได้ แต่กลายเป็นว่า เมื่อผู้นำเขตทหารตายไป ก็ได้แต่งตั้งลูกชาย หรือ คนไกล้ชิดในเขตทหารขึ้นมาแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่โอรสสวรรค์ยอมไม่ได้ เพราะ เป็นการข้ามหน้าข้ามตาอำนาจของส่วนกลาง และ เขตทหารที่ตั้งตนเป็นใหญ่ก็ไม่ได้ส่งภาษีให้กับราชสำนักอีกด้วย ซึ่งในช่วงแรกๆก็จะเน้นไปที่การประนีประนอม เพราะจริงๆก็พูดได้ว่าที่ทำให้ราชวงศ์นี้ยังอยู่ต่อไปได้ ก็เพราะได้เขตทหารเหล่านี้ช่วยปราบปรามกบฎอันสื่อนั่นเอง (เรียกได้ว่ามีบุญคุณในระดับนึง)
  • ทีนี้จริงๆการจัดการกับเขตทหารมีอยู่สองวิธีคือ 1.ประนีประนอม ยอมให้เขตทหารปกครองตัวเองต่อไป 2.ทำสงครามในการปราบปรามเขตทหาร ซึ่งวิธีที่เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุเลยก็คือ ปราบปรามเขตทหารแล้วส่งคนที่ไว้ใจได้ไปควบคุมซะ หลังจากฝ่ายสนับสนุนการทำสงครามก้าวเข้ามามีอำนาจ ไม่ว่าจำในตำแหน่งราชบัณฑิต หรือ เสนาบดีก็ตาม ทีนี้จักรวรรดิจีนก็เริ่มทำการปราบปรามเขตทหารที่กระด้างกระเดื่อง ด้วยการส่งเขตทหารที่ยังอยู่ในอำนาจของราชสำนัก (ยังใช้งานได้) และ ผูกมิตรกับเขตทหารที่ไม่ได้ห้าวเกินไป ทีนี้กลุ่มเขตทหารที่จะถูกปราบก็รู้ตัว ก็เลยรวมกลุ่มกันเพื่อต่อต้าน และ ไม่ว่าสงครามครั้งนี้จะแพ้ หรือ ชนะ ผลลัพธ์อย่างนึงก็คือ จักรวรรดิจีนได้สูญเสียทรัพยากรไปกับการทหารเป็นอย่างมาก (ซึ่งงบประมาณที่ใช้ไป ก็มาจากภาษีของประชาชน และ รายได้จากการบริหารเศรษฐกิจของจีนนั่นเอง)
  • และจะมีอยู่ช่วงนึงที่สงครามการปราบปรามเขตทหารให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ซึ่งจักรวรรดิจีนสามารถควบคุมเขตทหารได้ส่วนใหญ่ ทีนี้โอรสสวรรค์ก็เริ่มคิดว่า เราไม่มีกลุ่มคนที่ไว้ใจได้เลย บางทีส่งแม่ทัพไปก็ดันไปเข้าร่วมกับเขตทหาร ,ไม่ก็เขตทหารที่ตอนแรกยังอยู่ในอำนาจบางทีก็ตั้งตัวเป็นเขตปกครองตนเอง โอรสสวรรค์เลยนำระบบขันทีกลับมาใช้ เริ่มแรกจึงให้มีขันทีกลับมาอีกครั้ง และให้ขันทีเหล่านั้นไปควบคุมทหารองครักษ์ และ บางส่วนก็คอยดูแลโอรสสวรรค์
  • ไม่ว่าบ้านเมืองจะเจริญ หรือ ตกต่ำแต่การที่ โอรสสวรรค์ ไม่ปกครองโดยธรรม หรือ ไม่สนใจความเป็นไปของบ้านเมือง เอาแต่เที่ยวเล่น สนุกไปวันๆ จะเป็นการเพิ่มอำนาจให้กับกลุ่มคนบางกลุ่ม ซึ่งกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงก็คือกลุ่มขันทีนั่นเอง เพราะเป็นผู้ที่อยู่ไกล้ชิดโอรสสวรรค์มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าพวกขันทีส่วนมากต่างก็ต้องการอำนาจ เงินทอง มากกว่าที่จะสนใจประเทศชาติ นั่นยิ่งทำให้จักรวรรดิจีนเลวร้ายลงไปอีก
  • เรื่องระบบรัชทายาท ที่พอโอรสสวรรค์ตายไป ขันที และ ขุนนางก็เริ่มไม่เชื่อฟัง (ส่วนมากจะเป็นขันที) จะทำการแต่งตั้งเอง โดยเลือกตามความเหมาะสม (อายุ และ ลักษณะนิสัย) แต่บ้างก็แต่งตั้ง ตามความสนิท (เอาคนอายุน้อย แต่สนิทจะได้ควบคุมได้ง่าย ) ในช่วงที่โอรสสวรรค์ยังควบคุมพวกขันทีได้ การแต่งตั้งนั้นทำตามราชโองการ แต่คนที่ได้รับการแต่งตั้งไม่เก่งพอ ซึ่งหลังๆการแต่งตั้งมักไม่ทำตามราชโองการ เพราะ พวกขันทีจะเลือกคนที่คิดว่าจะควบคุมง่าย อายุน้อย และ ไม่ฉลาด
  • ระบบขันทีเริ่มกลายเป็นระบบที่กลับมาควบคุมโอรสสวรรค์แทน เพราะตำแหน่งทหารราชองครักษ์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายซ้าย หรือ ขวา ต่างก็ควบคุมโดยขันที ทำให้ถ้าไม่มีโอรสสวรรค์ที่มีบารมีพอ ขันทีก็สามารถควบคุมได้ ทั้งการแต่งตั้งรัชทายาทหลังโอรสสวรรค์เสียชีวิต หรือ ต่อให้มีโอรสสวรรค์ที่คิดจะกำจัดพวกขันที ก็กลับกลายเป็นว่าถูกลอบสังหาร หรือ วางยาพิษซะเอง
  • หลังๆ ขันทีไม่สนใจบ้านเมือง สนใจแต่ความสุขสบายของตัวเอง และ โอรสสวรรค์ไม่เก่งพอ ควบคุมขันทีไม่ได้ และ บริหารไม่ดี ทำให้ระบบเศรษฐกิจ การทหารของจักรวรรดิจีนเริ่มพังไม่เป็นท่า ประชาชนเริ่มอดอยาก และ ถูกต่างชาติเข้ามารุกราน แต่ ราชสำนักกลับปกป้องประชาชนไม่ได้ ในการออกทัพในยุคหลังจะให้ขันทีไปเป็นจเรทัพ(ผู้ควบคุมกองทัพมีอำนาจเหนือแม่ทัพอีกที) ซึ่งส่งผลเสียต่อการสั่งงานของแม่ทัพมาก เพราะ เอาคนที่ไม่รู้เรื่องการทหารมาสั่งการแม่ทัพอีกที จึงมักจะขัดแย้งกัน และ มักทำให้รบไม่ชนะ
  • เมื่อประชาชนอดอยาก ไม่มีข้าวกิน ราชสำนักขูดรีดภาษีอย่างหนัก ก็มักจะ
    เกิดกบฎ ซึ่งเป็นลางร้ายของการบริหารประเทศที่ไม่ดีพอ เมื่อชาวบ้านไม่มีจะกิน แต่ราชสำนักก็ยังคงเรียกเก็บภาษี การเลือกว่าไม่จ่ายภาษีก็ต้องตาย กับ จ่ายภาษีไปก็ต้องตายอยู่ดี ทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดก็คือ กบฎชาวนา ซึ่งจะพิสูจน์ได้ว่า ประชาชนไม่มีจะกินแล้วนั่นเอง
  • ซึ่งกบฎชาวนาส่วนมากในประวัติศาสตร์มักจะปราบปรามได้ เพราะ กบฎชาวนาส่วนมาก หลังจากต่อสู้กับราชสำนัก แต่ก็บริหารประเทศไม่เป็น ทำให้สุดท้ายก็ถูกปราบได้อยู่ดี แต่ อำนาจศูนย์กลางไม่มีเพียงพอแล้ว แต่ละท้องที่เริ่มตั้งก๊กของตัวเอง และ ไม่ฟังคำสั่งของราชสำนัก กองทัพของราชสำนักก็หมดไปกับการปราบกบฎแล้ว จักรวรรดิจีนจึงเป็นอัมพาต และ เป็นบทสุดท้ายไปสู่จุดจบของราชวงศ์ถังที่แท้จริง
  • เมื่อศูนย์กลางไร้ซึ่งอำนาจ แต่ละท้องที่จะพยายามควบคุมโอรสสวรรค์ คล้ายๆกับสามก๊กที่ใครมีโอรสสวรรค์อยู่กับมือ ก็ถือว่ามีอำนาจ หลังจากนั้นพวกเขตทหารต่างก็สู้กันเองชิงความเป็นใหญ่ และ พอมีเขตทหารที่สามารถสู้ชนะได้เกือบหมด ก็จะสถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิ และ ราชวงศ์ต่อไปของจีนนั่นเอง

สรุป : เป็นหนังสือประวัติศาสตร์จ๋าเลย แต่อ่านง่าย เข้าใจง่าย (ยกเว้นพวกตำแหน่งต่างๆในสมัยราชวงศ์ถังของจีน เพราะ ไม่ได้อธิบายละเอียดมากพอ) เขียนได้ดีตามภาษาของสมัยใหม่ อ่านไปครึ่งเล่มแรกนี่หลับแล้วหลับอีก (ผมให้เป็นยานอนหลับประจำตัวเลย) อ่านไม่จบตอนสักทีหลับไปก่อน 555 เพราะจะเน้นไปที่การปราบปรามเขตทหารเป็น Background แต่พูดถึงระบบเสนาบดี การบริหารประเทศทางด้านเศรษฐกิจ การคลัง การเก็บภาษี และ การค้า ส่วนครึ่งหลังจะเริ่มเป็นการเมือง การแก่งแย่งชิงอำนาจในหมู่ข้าราชการ และ การกลับมีอำนาจของขันทีที่เริ่มส่งผลเลวร้ายต่อประเทศชาติ ถือว่าเป็นหนังสือที่ทำให้เราเข้าใจการเมืองมากขึ้น

เหนือสิ่งอื่นใดเลยของผู้มีอำนาจ คือ การคานอำนาจให้สมดุลกัน และ ถ้าเกิดมีส่วนใดที่ควบคุมไม่ได้ นั่นแหละ สิ่งนั้นจะเริ่มเป็นภัยต่อเราเอง !!!

คะแนน : 7/10

--

--

No responses yet